สายไฟเบอร์ออฟติก
สายไฟเบอร์ออฟติก
สายไฟเบอร์ออฟติก
สายไฟเบอร์ออฟติก หรือ สายใยแก้วนำแสง ที่ทางร้านมีจำหน่าย ซึ่งจะแบ่งแยกย่อยออกไปตามประเภทสาย เช่น สายไฟเบอร์ออฟติกแบบยกม้วน 1,000 เมตร และ 2,000 เมตร เป็นสายชนิด Single Mode รองรับงานระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต, กล้องวงจรปิด CcTv และ Cable Tv Fiber (cAtV) จำนวนคอร์ไฟเบอร์มีตั้งแต่ 1 คอร์, 2 คอร์, 4 คอร์, 6 คอร์, 8 คอร์ และ 12 คอร์ แยกย่อยออกเป็นชนิด Ftth Drop Cable และ ชนิด GYXTW (Armored) ต่อไปจะเป็นสายไฟเบอร์ออฟติกพร้อมเข้าหัวสำเร็จรูป เป็นสายชนิด Ftth Drop Cable มีให้เลือกแบบ 1 Core และ 2 Core ความยาว 100-500 เมตร ต่อไปจะเป็นสาย Patch Cord มีหัวให้เลือกหลายแบบ และมีความยาวให้เลือกระหว่าง 3 เมตร และ 1 เมตร สาย Patch Cord ที่ทางร้านจำหน่ายจะเป็นสายขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 3 มิลลิเมตร ทั้งหมด ต่อไปจะเป็นสาย Pigtail สายพิกเทลก็จะมีหัวให้เลือกหลายแบบด้วยกัน ความยาวสายจะอยู่ที่ 1.5 เมตร และมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.9 มิลลิเมตร
สายไฟเบอร์ออฟติก Single Mode และ Multi Mode ต่างกันยังไง
1. สายไฟเบอร์ออฟติกแบบ Single Mode
สายไฟเบอร์ออฟติกชนิด Single Mode (ซิงเกิ้ลโหมด) จะใช้สัญลักษณ์ สีเหลือง เป็นตัวบ่งบอก จะมีแกนไฟเบอร์หรือที่เรียกกันว่าคอร์ (Core) ไฟเบอร์ที่เล็กกว่า 10 ไมครอน มาตรฐานที่ใช้กันจะอยู่ที่ขนาด 9 ไมครอน ฝังอยู่ภายในชั้นที่เราเห็นว่าเป็นเส้นแก้วหรือชั้น (Cladding) ที่มีขนาด 125 ไมครอน มาตรฐาน Fiber Optic os2 จึงเป็นที่มาของคำเรียกที่ว่า 9/125 ไมครอน นั่นเอง ความยาวคลื่นแสงที่เหมาะสมกับสาย Single Mode คือ 1310nm-1625nm นาโนเมตร (nm) ดังนั้นด้วยขนาดของคอร์ไฟเบอร์ที่มีขนาดเล็ก และแสงเดินทางเป็นเส้นตรง จึงมีการสะท้อนแสงน้อยเมื่อลำแสงวิ่งผ่านสายไฟเบอร์ชนิดนี้ จึงทำให้สามารถรับส่งสัญญาณได้ไกลถึง 100 กิโลเมตรเลยทีเดียว
2. สายไฟเบอร์ออฟติกแบบ Multi Mode
สายไฟเบอร์ออฟติกแบบ Multi Mode (มัลติโหมด) ส่วนใหญ่จะใช้สัญลักษณ์ สีส้ม เป็นตัวบ่งบอก จะมีแกนไฟเบอร์หรือคอร์อยู่ด้วยกัน 2 ขนาดคือ ขนาด 50 ไมครอน และขนาด 62.5 ไมครอน ฝังอยู่ภายในชั้นที่เราเห็นว่าเป็นเส้นแก้วหรือชั้น (Cladding) ที่มีขนาด 125 ไมครอน เช่นเดียวกันกับสายแบบ Single Mode คำเรียกที่คุ้นเคยคือ 50/125 ไมครอน และ 62.5/125 ไมครอน ความยาวคลื่นแสงที่เหมาะสมในการใช้งานคือ 850 นาโนเมตร (nm) ด้วยขนาดของคอร์ไฟเบอร์ที่มีขนาดใหญ่ และการเดินทางของลำแสงจะเป็นลักษณะสะท้อนขึ้นลงในคอร์ไฟเบอร์ แสงจึงเดินทางได้ช้ากว่าและมีการลดทอนมาก ทำให้ระยะใช้งานสั้นลงตามไปด้วย ยิ่งคอร์ไฟเบอร์มีขนาดใหญ่ ระยะก็จะสั้นลงไปอีกถ้าเปรียบเทียบกันเองคือ ระยะของ Multi Mode 62.5 ไมครอน จะได้ระยะทางที่สั้นกว่า Multi Mode 50 ไมครอนนั่นเอง สายมัลติโหมดจะเหมาะกับการใช้งานระยะทางสั้นๆ ยิ่งยาวยิ่งลดทอนมาก ไม่เกิน 550 เมตร ที่ความยาวคลื่นแสง 850nm และสูงสุดที่ 2 กิโลเมตร ที่ความยาวคลื่น 1310nm
04 พฤษภาคม 2564
ผู้ชม 569 ครั้ง